แม้สัตว์เลี้ยงหลายประเภทจะสามารถเรียนรู้และอยู่โดยลำพังได้ แต่น้องกระต่ายกลับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการเพื่อน ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงนิยมเลี้ยงกระต่ายเป็นคู่เพื่อให้น้อง ๆ ได้มีสังคมและอยู่ร่วมกันเหมือนธรรมชาติของกระต่ายทั่วไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีความน่ารักที่เอ่อล้นเท่านั้น แต่การเลี้ยงกระต่ายเป็นคู่ก็นำมาซึ่งบรรดาลูกน้อยเต็มคอกเช่นเดียวกัน
แล้วเจ้าของอย่างเรา ๆ จะมีวิธีดูแลกระต่ายท้องอย่างไรให้ปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี มีวิธีเตรียมอาหารกระต่ายท้องอย่างไรให้เหมาะสม บทความนี้จะมาแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลกระต่ายตอนตั้งท้อง ทั้งเรื่องอาหาร สภาพแวดล้อม และการดูแลหลังคลอดที่ถูกต้องกัน
ก่อนที่จะไปรู้จักวิธีดูแลคุณแม่น้องกระต่ายทั้งช่วงก่อนและหลังคลอดอย่างถูกต้อง ลองสละเวลาสักนิดมาสังเกตกันสักหน่อยว่า น้องกระต่ายของเรานั้นกำลังตั้งท้องอยู่หรือไม่ และตอนนี้น้องกระต่ายท้องกี่เดือนอยู่กันแน่ ซึ่งเจ้าของทุกคนสามารถเริ่มสังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้
หากใครเพิ่งเคยเลี้ยงกระต่ายเป็นครั้งแรก ขอแนะนำให้ลองสังเกตอาการที่ผิดปกติไปของน้องกระต่าย เช่น การส่งเสียงร้องอี้ดเวลาเจ้าของสัมผัสตัวหรืออุ้ม ตลอดจนพฤติกรรมการใช้ขาหน้าตะกายเวลาเจ้าของยื่นมือไปในกรง หรือกระต่ายบางตัวอาจมีการกระโจนเข้ามือเจ้าของเวลาให้อาหารได้
โดยทั่วไปแล้ว กระต่ายสามารถตั้งท้องได้ปีละ 2-3 ครั้ง กระต่ายจะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 30 วัน และคลอดไม่เกินวันที่ 32 ของการตั้งท้อง ซึ่งหลังจากมีการผสมพันธุ์ 14 วัน เจ้าของทุกคนควรจับ บริเวณหนังคอที่อยู่ถัดมาจากหูของกระต่ายก่อน อีกมือช้อนรับน้ำหนักส่วนท้ายของกระต่าย จากนั้นจึงใช้มือค่อย ๆ คลำบริเวณท้อง ซึ่งหากพบก้อนเล็ก ๆ ก็แปลว่ากระต่ายของเราตั้งท้องแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ดี วิธีนี้อาจไม่เหมาะสำหรับกระต่ายที่มีการตั้งท้องมามากกว่า 14 วัน เนื่องจากการลูบคลำอาจทำให้ลูกกระต่ายได้รับบาดเจ็บได้
ในระหว่างการตั้งท้องช่วงแรก กระต่ายมักจะมีน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหากใครรู้น้ำหนักของน้องกระต่ายตัวเองอยู่แล้ว วิธีนี้ก็จะช่วยให้สังเกตการตั้งท้องของกระต่ายได้ง่ายขึ้น
การนำกระต่ายไปอัลตราซาวนด์กับสัตวแพทย์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ทราบว่ากระต่ายตั้งท้องหรือไม่ แต่ยังช่วยให้เจ้าของทุกคนทราบด้วยว่า ตอนนี้น้องกระต่ายท้องกี่เดือนแล้ว ซึ่งทุกคนควรนำกระต่ายไปอัลตราซาวนด์หลังตั้งท้องได้ 6 วัน
สำหรับใครที่คอนเฟิร์มได้ว่า กระต่ายของตัวเองกำลังตั้งท้อง อีกทั้งยังระบุได้ว่ากระต่ายท้องกี่เดือนแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ควรทำอย่างยิ่ง คือ การเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อทั้งการอุ้มท้องและการคลอดในเวลาต่อมา ซึ่งการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมนี้จะถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทั้งตัวแม่และลูกกระต่ายที่กำลังจะลืมตาดูโลกเลยทีเดียว โดยเจ้าของทุกคนสามารถเตรียมสิ่งแวดล้อมให้คุณแม่น้องกระต่ายได้ตามขั้นตอน ดังนี้
ยิ่งใกล้คลอดเท่าไหร่ แม่กระต่ายก็จะเริ่มกินอาหารน้อยลงมากเท่านั้น เนื่องจากตัวแม่กระต่ายจะต้องเตรียมตัวสร้างรังให้พร้อมคลอดลูก ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ เจ้าของทุกคนไม่ควรไปเพิ่มปริมาณอาหารให้แก่น้องกระต่าย แต่ควรเลือกอาหารที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวแม่และลูกกระต่ายในท้อง
นอกเหนือจากอาหารปกติที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว อาหารกระต่ายท้องยังควรมีการเสริมโปรตีนด้วยหญ้าอัลฟาฟ่าและแคลเซียม อีกทั้งยังควรเสริมผักอย่างข้าวโพดหวานดิบ รวมไปถึงเซอรารีเพื่อช่วยสร้างน้ำนม ที่สำคัญ เจ้าของยังควรวางน้ำสะอาดเอาไว้ในกรง พร้อมทั้งเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีของแม่กระต่าย และสุขภาพของลูกกระต่ายที่อยู่ในท้อง
โดยการเสริมอาหารกระต่ายท้องที่เหมาะสมและครบถ้วนนี้จะช่วยลดปัญหาความเครียดของแม่กระต่าย อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้แม่กระต่ายขาดสารอาหารจนเกิดอาการกินลูกตัวเองอีกด้วย
ในช่วงที่แม่กระต่ายตั้งท้อง เจ้าของทุกคนควรแยกแม่กระต่ายออกมาจากกระต่ายตัวผู้ทันที เพราะกระต่ายตัวผู้นี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แม่กระต่ายเครียด ซึ่งส่งผลต่อการตั้งท้องและคลอดในภายหลังได้
นอกจากนี้ เจ้าของเองก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับแม่กระต่ายมากนัก เพราะอาจทำให้แม่กระต่ายมีภาวะเครียดเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ขอแนะนำให้ดูแลแม่กระต่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น อุ้มกระต่ายอย่างระมัดระวังเมื่อต้องการเคลื่อนย้ายเพื่อทำความสะอาดกรง ตลอดจนปิดพื้นที่กั้นให้แม่กระต่ายได้วิ่งเล่นนอกกรงได้อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง โดยไม่มีตัวผู้หรือเจ้าของมารบกวนมากนัก
ตามธรรมชาติแล้ว คุณแม่กระต่ายจะทำการกัดรกและทำความสะอาดตัวเองและลูกทันทีหลังคลอดเสร็จ และหากพบลูกกระต่ายที่ตายระหว่างคลอดก็ให้นำออกทันที แต่สำหรับกระต่ายที่ตั้งท้องตั้งแต่ยังเด็ก แม่กระต่ายมักจะเกิดภาวะเลี้ยงลูกไม่เป็น จนไม่ยอมทำความสะอาดและเลี้ยงลูกได้ ซึ่งหากแม่กระต่ายของใครมีพฤติกรรมนี้ เจ้าของอย่างเรา ๆ จะต้องคอยนำลูกกระต่ายมาทำความสะอาด โดยดึงเมือกที่หุ้มตัวลูกกระต่ายออกให้หมด และเช็ดให้แห้ง
นอกจากนี้ เจ้าของยังควรแยกกระต่ายตัวผู้ออกจากแม่กระต่ายจนกว่าลูก ๆ จะโตครบ 8 สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวผู้เข้ามากัดลูกเพื่อผสมพันธุ์ใหม่ และเพื่อช่วยให้แม่กระต่ายเลี้ยงลูกได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ เจ้าของยังควรหาผ้ามาคลุมกรงเอาไว้ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งกับแม่กระต่ายให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้ตัวกระต่ายรู้สึกปลอดภัย และป้องกันปัญหากระต่ายทิ้งลูกนั่นเอง
นอกจากอาหารกระต่ายท้องที่เตรียมไว้แล้ว แม่กระต่ายบางตัวอาจมีภาวะการกินลูกได้เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ลูกอ่อนแอ ความเครียด ความอ่อนเพลียจากการคลอดลูก ตลอดจนนิสัยของแม่กระต่ายเอง ซึ่งหากเจ้าของคนไหนพบพฤติกรรมแม่กระต่ายกินลูกนี้ ขอแนะนำให้ศึกษาวิธีการดูแลกระต่ายที่ถูกต้อง ตลอดจนปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลแม่และลูกกระต่ายที่ปลอดภัยต่อไป
จะเห็นได้ว่า การดูแลกระต่ายท้องนั้นมาพร้อมกับรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากมาย แต่หนึ่งสิ่งสำคัญที่จำเป็นอย่างมาก คือ การเตรียมอาหารกระต่ายท้องให้มีสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อทั้งแม่และลูกกระต่ายที่กำลังจะคลอด ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสุขภาพ พร้อมป้องกันความเสี่ยงรอบด้านที่อาจเกิดขึ้นได้
หากคุณเป็นคนที่รักกระต่ายและกำลังมองหาแหล่งซื้อสินค้าและอาหารคุณภาพดีให้กระต่ายท้องและกระต่ายในภาวะปกติ PCGshoponline มาพร้อมอาหารและสินค้ากระต่ายจากหลากหลายแบรนด์ ทั้งอาหารกระต่ายสมาร์ทฮาร์ท โกลด์ อาหารกระต่ายสมาร์ทฮาร์ท อาหารกระต่ายเอโปร ไอ.คิว.ฟอร์มูล่า ทั้งยังมีโปรโมชันหลากหลายและต่อเนื่อง พร้อมสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษ ช้อปที่เดียวครบทุกความต้องการเรื่องกระต่ายท้อง สั่งซื้อออนไลน์ พร้อมมีบริการส่งฟรีถึงบ้าน