TH
PCG LOGO
หมวดหมู่สินค้า
แบรนด์สินค้า
PCG LOGO1
การรับประกัน
สินค้าแท้ 100%
PCG LOGO2
จัดส่งรวดเร็ว
ติดตามสถานะได้ทันที
ทาสแมวต้องรู้! 10 วิธีดับกลิ่นฉี่แมว กลิ่นอึแมว ตัวช่วยให้บ้านไม่เหม็น
28/10/2025
เคล็ดลับสัตว์เลี้ยง
วิธีดับกลิ่นฉี่แมว กลิ่นอึแมว

ทาสแมวต้องรู้! 10 วิธีดับกลิ่นฉี่แมว กลิ่นอึแมว ตัวช่วยให้บ้านไม่เหม็น

การเลี้ยงแมวเป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต แต่ปัญหาที่มักจะมาพร้อมกันคือเรื่องของกลิ่นฉี่และกลิ่นอุจจาระที่รุนแรงและติดทนนาน หลายครั้งที่การทำความสะอาดทั่วไปอาจไม่เพียงพอ เพราะในปัสสาวะของแมวมีองค์ประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน โดยเฉพาะกรดยูริก (Uric Acid) ที่เมื่อแห้งจะตกผลึกและฝังตัวลึกตามพื้นผิวต่าง ๆ ทำให้การดับกลิ่นฉี่แมวเป็นเรื่องยาก เมื่อผลึกนี้สัมผัสกับความชื้นอีกครั้ง กลิ่นฉุนก็จะกลับมาทันที บทความนี้จึงได้รวบรวมวิธีดับกลิ่นฉี่แมว และวิธีดับกลิ่นขี้แมวในบ้านที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้บ้านของเรากลับมาสะอาดและมีกลิ่นที่สดชื่นอีกครั้ง

ทำความเข้าใจทำไมแมวถึงฉี่ไม่เป็นที่?

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีดับกลิ่นฉี่แมว การทำความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาจะช่วยให้เราแก้ไขได้อย่างยั่งยืน การที่แมวฉี่นอกกระบะทรายไม่ใช่พฤติกรรมกลั่นแกล้ง แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่มาจากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

  • ปัญหาเกี่ยวกับกระบะทราย : แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด เมื่อกระบะทรายอาจสกปรกเกินไป วางในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม มีขนาดเล็กไป หรือน้องแมวอาจไม่ชอบชนิดของทรายที่ใช้อยู่ ทำให้เลือกที่จะไปหาที่ปล่อยทุกข์ที่อื่นแทน
  • ปัญหาสุขภาพของน้องแมว : โรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ นิ่ว หรือโรคไต สามารถทำให้แมวรู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะ หรือไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้เหมือนเดิม
  • ปัญหาด้านพฤติกรรมและความเครียด : การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น การย้ายบ้าน การมีสมาชิกใหม่ (คนหรือสัตว์เลี้ยง) หรือความวิตกกังวลต่าง ๆ สามารถส่งผลให้แมวแสดงพฤติกรรมการฉี่ไม่เป็นที่ได้

10 วิธีดับกลิ่นฉี่และอึแมวที่ได้ผลจริง

10 วิธีดับกลิ่นฉี่และอึแมว

เมื่อต้องเผชิญกับกลิ่นฉี่และอึแมว ควรมีการรับมือที่ถูกต้อง การดับกลิ่นฉี่แมว ไม่ใช่แค่การกลบกลิ่น แต่คือการกำจัดที่ต้นตออย่างแท้จริง 10 วิธีดับกลิ่นฉี่และอึแมวที่มีประสิทธิภาพที่ได้นำมาแนะนำ เป็นวิธีที่ช่วยจัดการปัญหากลิ่นฉี่และอุจจาระแมวได้อย่างอยู่หมัด ทำให้การดับกลิ่นฉี่แมวในบ้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

1. เลือกอาหารสูตรลดกลิ่น

การเริ่มต้นดับกลิ่นฉี่แมว กลิ่นอึแมวจากต้นทางคือการจัดการที่ยั่งยืนที่สุด ปัจจุบันมีอาหารแมวหลากหลายสูตรที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดความรุนแรงของกลิ่นมูลโดยเฉพาะ ซึ่งอาหารเหล่านี้มักมีส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลในระบบย่อยอาหาร ทำให้การขับถ่ายมีกลิ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด 

อย่าง อาหารแมวมีโอ โกลด์ สูตรแมวเลี้ยงในบ้าน เป็นอาหารแมวที่นอกจากจะมีสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว ยังมีส่วนประกอบจากสารสกัดยัคคา (Yucca) ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยลดกลิ่นมูลจากการขับถ่าย เพื่อสร้างสุขอนามัยและสภาพแวดล้อมที่ดี

2. น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูคือวัตถุดิบสารพัดประโยชน์ที่มีในทุกครัวเรือน ด้วยคุณสมบัติที่เป็นกรดจึงสามารถทำลายผลึกกรดยูริกในฉี่แมวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้น้ำส้มสายชูจึงเป็นเทคนิคการดับกลิ่นฉี่แมวที่ได้ผลดีและปลอดภัย วิธีใช้คือผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 บรรจุในขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นบริเวณที่มีคราบปัสสาวะ ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วเช็ดออกให้แห้ง วิธีนี้ถือเป็นการดับกลิ่นฉี่แมวที่ประหยัดและได้ผลดี

3. กากกาแฟ

หลังจากชงกาแฟดื่มในตอนเช้า อย่าเพิ่งทิ้งกากกาแฟ เพราะกากกาแฟคือตัวช่วยในการดูดซับกลิ่นอับต่าง ๆ รวมถึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยดับกลิ่นฉี่แมวได้ด้วย เพียงนำกากกาแฟที่แห้งสนิทไปวางไว้ในถ้วยหรือห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปตั้งไว้ใกล้กับบริเวณกระบะทรายหรือจุดที่มีกลิ่น กากกาแฟจะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้อากาศภายในบ้านสดชื่นขึ้น การดับกลิ่นฉี่แมวด้วยวิธีนี้เหมาะกับการจัดการกลิ่นในอากาศ

4. น้ำหมักชีวภาพ (EM)

น้ำหมักชีวภาพ หรือ EM (Effective Microorganisms) คือกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ซึ่งทำงานโดยการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่เป็นต้นตอของกลิ่นเหม็น ทำให้เป็นวิธีดับกลิ่นฉี่แมวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูง ผสมน้ำหมักชีวภาพกับน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ แล้วนำไปฉีดพ่นหรือราดลงบนบริเวณที่ต้องการกำจัดกลิ่น จุลินทรีย์จะเข้าไปจัดการต้นตอของกลิ่นให้หมดไป การดับกลิ่นฉี่แมวด้วย EM จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง

5. ทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำ

การป้องกันและดับกลิ่นฉี่แมว คือความสะอาดของกระบะทรายเป็นประจำ เราควรตักอุจจาระและปัสสาวะที่จับตัวเป็นก้อนออกจากกระบะทรายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง และควรเปลี่ยนทรายทั้งหมดพร้อมกับล้างทำความสะอาดกระบะทรายด้วยสบู่อ่อน ๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง การรักษากระบะทรายให้สะอาดอยู่เสมอไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องการดับกลิ่นฉี่แมว แต่ยังส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีให้กับน้องแมวอีกด้วย

6. เลือกใช้ทรายแมวที่ควบคุมกลิ่นได้ดีเยี่ยม

ทรายแมวในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภท แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการเก็บกลิ่นแตกต่างกันไป การลงทุนเลือกใช้ทรายแมวคุณภาพดีที่มีคุณสมบัติควบคุมกลิ่นดีเยี่ยม จะช่วยเก็บกลิ่นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การดับกลิ่นฉี่แมวในแต่ละวันง่ายขึ้นมาก การเลือกทรายแมวที่เหมาะสมคือการลงทุนเพื่อบรรยากาศที่ดีของบ้านและการดับกลิ่นฉี่แมวที่ได้ผล

7. หมั่นทำความสะอาดของใช้และที่นอนแมว

กลิ่นฉี่และกลิ่นตัวของแมวสามารถสะสมอยู่ตามของใช้ต่าง ๆ เช่น ที่นอน เบาะ ผ้าห่ม หรือของเล่นได้เช่นกัน ดังนั้น การนำของใช้เหล่านี้ออกมาซักทำความสะอาดเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม อาจใช้น้ำยาซักผ้าทั่วไปร่วมกับน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดับกลิ่นฉี่แมว และกลิ่นอับที่ฝังแน่น การดูแลความสะอาดของใช้ส่วนตัวของแมวเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการดับกลิ่นฉี่แมวให้หมดไปจากบ้าน

8. การใช้เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน ๆ ซึ่งสามารถช่วยปรับสภาพและดูดซับกลิ่นที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างกลิ่นฉี่แมวได้เป็นอย่างดี เราสามารถใช้เบกกิ้งโซดาเป็นตัวช่วยในการดับกลิ่นฉี่แมวได้หลายวิธี เช่น โรยลงบนพรมหรือโซฟาที่เปื้อนฉี่ ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก หรือจะผสมกับน้ำทำเป็นเพสต์ข้น ๆ สำหรับป้ายบนคราบฝังแน่นก็ได้เช่นกัน นับเป็นวิธีดับกลิ่นฉี่แมวที่ง่ายและปลอดภัย

9. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ

ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศดับกลิ่นฉี่แมว

สำหรับบ้านที่ระบบระบายอากาศไม่ดีหรือเป็นระบบปิด การมีเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักเครื่องจะสามารถช่วยยกระดับคุณภาพอากาศได้อย่างมาก ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA ซึ่งสามารถดักจับสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง และที่สำคัญคือต้องมีแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Filter) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับกลิ่นโดยเฉพาะ การมีเครื่องฟอกอากาศจะช่วยดับกลิ่นฉี่แมวที่ลอยอยู่ในอากาศได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านมีอากาศที่สะอาดสดชื่นอยู่เสมอ

10. การระบายอากาศในบ้านให้ถ่ายเทสะดวก

วิธีที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องลงทุนอะไรเลยในการดับกลิ่นฉี่แมว คือการเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทอย่างสะดวก การระบายอากาศจะช่วยพัดพากลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปจากบ้าน และนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ ควรเปิดหน้าต่างอย่างน้อยวันละ 15-30 นาที โดยเฉพาะในบริเวณที่วางกระบะทรายหรือเป็นมุมประจำของน้องแมว การทำให้อากาศหมุนเวียนอยู่เสมอคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการดับกลิ่นฉี่แมว และการดูแลบ้านให้ถูกสุขลักษณะ

สรุป

การดับกลิ่นฉี่แมว และกลิ่นอึแมวให้หมดไปจากบ้านต้องอาศัยการจัดการแบบผสมผสาน ตั้งแต่การดูแลสุขภาพและอาหารการกินของแมว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเช่นทรายแมว ไปจนถึงการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการดูแลสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาดและมีอากาศถ่ายเทสะดวก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้หมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้เราและน้องแมวสามารถใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านที่หอมสะอาดได้อย่างมีความสุข

การดูแลสุขภาพน้องแมวนั้น นอกจากเรื่องความสะอาดแล้ว เรื่องอาหารก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่ง PCG เรามีทั้งอาหารแมวและทรายแมวให้เลือกด้วยกันหลายสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับน้องแมวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแมวสมาร์ทฮาร์ท อาหารแมวมีโอ ขนมแมวเลีย หรือจะเป็นทรายแมว เราก็มีด้วยกันหลายสูตร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าเหมียวที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยงที่ครบวงจร สามารถเลือกซื้อได้ที่ PCG Shop Online แหล่งรวมอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ หลากหลายแบรนด์ ทั้ง สมาร์ฮาร์ท และ มีโอ เป็นต้น เพื่อให้ตรงตามความต้องการของแมว และเจ้าเหมียวในแต่ละวัยมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

1. ทำไมบางครั้งทำความสะอาดแล้ว แต่กลิ่นฉี่แมวยังกลับมาอีก?

สาเหตุหลักคือกรดยูริกในปัสสาวะแมวที่ตกผลึกและฝังแน่นตามพื้นผิว การทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ทั่วไปไม่สามารถทำลายผลึกนี้ได้ เมื่อผลึกสัมผัสกับความชื้นในอากาศอีกครั้ง กลิ่นฉุนรุนแรงจึงกลับมาอีกครั้ง การใช้น้ำยาที่มีเอนไซม์หรือน้ำส้มสายชูจึงจำเป็นเพื่อสลายผลึกเหล่านี้ที่ต้นตอ

2. แมวฉี่ใส่ที่นอนหรือโซฟา ควรทำความสะอาดอย่างไรให้กลิ่นหายสนิท?

เริ่มต้นด้วยการใช้กระดาษหนา ๆ ซับปัสสาวะออกให้มากที่สุด จากนั้นฉีดพ่นด้วยส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกับน้ำ (อัตราส่วน 1:1) หรือใช้น้ำยาเอนไซม์กำจัดกลิ่นโดยเฉพาะ ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วโรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วเพื่อดูดซับกลิ่นที่เหลือ ทิ้งไว้หลายชั่วโมงหรือข้ามคืน สุดท้ายใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกให้สะอาด

3. มีวิธีป้องกันไม่ให้แมวกลับไปฉี่ซ้ำที่เดิมหรือไม่?

หลังจากทำความสะอาดจุดนั้นจนไร้กลิ่นโดยสมบูรณ์แล้ว ให้ทำให้บริเวณนั้นไม่น่าสนใจสำหรับแมว อาจวางแผ่นฟอยล์หรือฉีดสเปรย์ที่มีกลิ่นที่แมวไม่ชอบ เช่น กลิ่นส้ม มะนาว หรือลาเวนเดอร์ นอกจากนี้ ลองเปลี่ยนตำแหน่งนั้นให้เป็นพื้นที่สำหรับเล่นหรือให้อาหาร เพื่อเปลี่ยนการรับรู้ของแมวที่มีต่อจุดเดิม

ดูบทความทั้งหมด