แม้ว่าเต่าจะมีชีวิตที่ยืนยาว แต่การเลี้ยงเต่าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าเลี้ยงไม่ถูกวิธี ผิดไปจากธรรมชาติก็เสี่ยงทำให้เต่าตายได้ แถมบางคนยังสับสนระหว่างเต่าบกกับเต่าน้ำ วันนี้เราเลยจะมาบอกถึงวิธีการเลี้ยงเต่าบกสำหรับมือใหม่ พร้อมแนะนำอาหารเต่าที่ใช่ ถูกหลักโภชนาการ
หลายคนมักคิดว่าเต่าไหน ๆ ก็เหมือนกันหมด นั่นก็คือ เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สามารถว่ายน้ำได้ อยู่บนบกก็ได้ และเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน แต่ที่จริงแล้ว เต่าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ เต่าบก เต่าน้ำจืด และเต่าทะเล ดังนั้น ก่อนที่เราจะไปซื้อเต่ามาเลี้ยง สิ่งแรกที่เราจะต้องรู้คือ เต่าแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะได้เลี้ยงได้อย่างถูกต้อง
เต่าบกมีจุดสังเกตที่ชัดที่สุดคือกระดองที่นูนหนา ขรุขระ ขามีเกล็ด เพื่อใช้ในการขุดดินและป้องกันตัว เวลาเดินจะยกตัวให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อไม่ให้บริเวณท้องครูดกับพื้นดิน เต่าบกจะกินพืชเป็นอาหารหลัก แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่กินแมลงเป็นอาหารด้วยเช่นกัน และเนื่องจากเต่าบกมีน้ำหนักมาก และไม่มีพังผืดที่เท้า ทำให้ว่ายน้ำไม่ได้ หากว่าปล่อยในที่ที่น้ำลึกอาจจะทำให้จมน้ำตายได้
เต่าน้ำจืดมองเผิน ๆ อาจจะเหมือนเต่าทั่วไป แต่สังเกตดี ๆ จะมีความแตกต่างจากเต่าบกอยู่มาก เริ่มตั้งแต่กระดองที่จะแบนเรียบ หรือนูนเพียงเล็กน้อย ขาไม่มีเกล็ดและมีความยืดหยุ่น บริเวณเท้าจะเป็นพังผืดเพื่อช่วยให้ว่ายน้ำได้สะดวก ส่วนใหญ่จะกินสัตว์น้ำขนาดเล็กและพืชน้ำ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ และเคลื่อนไหวบนบกไม่คล่องแคล่วเท่าในน้ำ
สำหรับเต่าประเภทสุดท้ายที่เรามักจะเห็นตามสารคดีต่าง ๆ คือเต่าทะเล จะมีกระดองแบนเป็นรูปวงรีหรือรูปหัวใจ เพื่อให้ว่ายน้ำได้สะดวก ขาแบนคล้ายไม้พายช่วยในการว่ายน้ำและบังคับทิศทาง ไม่สามารถหดหัวเข้าไปในกระดองได้
เต่าทะเลแทบจะไม่ขึ้นมาบนบกเลย เว้นแต่ช่วงฤดูวางไข่ที่จะขึ้นมาวางไข่บนหาดทรายแล้วกลับสู่ท้องทะเล
เมื่อแยกประเภทของเต่าได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมตัวและจัดสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงเต่าบก
อันดับแรกเลยคือ เราจะต้องรู้ว่าเต่าบกที่เราเลี้ยงต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศไหนและมีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เพื่อจัดสภาพแวดล้อมในพื้นที่ของเราให้ใกล้เคียงกับแหล่งกำเนิด ตัวอย่างเช่น เต่าพันธุ์ซูคาตา หรือเต่าเดือยแอฟริกา มีถิ่นที่อยู่ในทะเลทรายกับทุ่งหญ้ากึ่งแห้งแล้ง จึงควรจัดพื้นที่ให้แห้ง และอบอุ่น ที่สำคัญควรทราบว่าเต่าพันธุ์นี้ค่อนข้างจะแข็งแรง ขุดเก่ง โตไว จึงควรใช้กระบะที่ทนทาน หรืออาจจะจัดให้อยู่ในพื้นที่นอกบ้านไปเลย
สำหรับลูกเต่าบก หรืออยู่ในช่วงสองปีแรก เราควรจะเลี้ยงเต่าในบ้านมากกว่านอกบ้าน เนื่องจากสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และไม่ต้องกังวลว่าจะมีสัตว์อื่นมารบกวน และหลังจากผ่านสองปีแรกไปแล้ว เราอาจจะเลี้ยงแบบ Outdoor เพื่อให้เต่าของเราได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ
สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงเต่าบก ควรมีอุปกรณ์พื้นฐานดังต่อไปนี้
สิ่งหนึ่งที่เราควรจะต้องทราบก่อนเลี้ยงเต่าบกคือ เราควรเลี้ยงในกระบะมากกว่าในตู้กระจก เพราะเต่าอาจจะไม่ชินกับสภาพแวดล้อม และบาดเจ็บได้
อาหารหลักของเต่าบกคือ หญ้าและพืชผักต่าง ๆ ซึ่งควรเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงและมีโปรตีนต่ำ และหลากหลาย เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม เราควรจะให้อาหารเต่าตามสายพันธุ์ที่เลี้ยง
นอกจากนี้ เราสามารถใช้อาหารเต่าสำเร็จรูป ซึ่งมีสารอาหารครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างกระดูก ฟัน และกระดองให้มีความสมบูรณ์ เจริญเติบโตอย่างสมวัย โดยสัดส่วนที่ให้คือ ผัก 50% และอาหารเม็ดสำเร็จรูป 50%
นอกจากอาหารแล้ว ควรมีถาดใส่น้ำสะอาด เพื่อให้เต่าสามารถดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเต่าบกจะกินผักเป็นหลัก แต่เราไม่ควรจะให้กินผลไม้มากเกินพอดี ส่วนปริมาณอาหารจะแตกต่างกันไปตามขนาดและสายพันธุ์ ซึ่งบางคนที่เลี้ยงแบบ Outdoor อาจจะปล่อยให้เต่ากินหญ้าสด ๆ ทั้งวัน แต่บางคนก็อาจจะให้แบบจำกัดระยะเวลา
อาหารเต่าบก ยี่ห้อออพติมั่ม เป็นอาหารสำเร็จรูปสูตรพิเศษที่มีสารอาหารครบถ้วนตามที่เต่าบกต้องการ นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุ แคลเซียม และวิตามินดี ที่จำเป็นต่อการพัฒนาความสมบูรณ์ของกระดอง และมีวิตามินเอ ซี และอี ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่าง ๆ เหมาะสำหรับเต่าบกทุกสายพันธุ์
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการดูแลอื่น ๆ ที่คนเลี้ยงเต่ามือใหม่ควรรู้ดังต่อไปนี้
แม้ว่าเต่าบกจะมีอายุยืนยาวและดูแข็งแรง แต่การนำเต่าบกมาเลี้ยงในบ้าน ห่างไกลจากสภาพแวดล้อมเดิม อาจจะทำให้เต่าป่วยและตายก่อนอายุขัยได้เช่นเดียวกัน การจัดเตรียมสถานที่และดูแลอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้เต่าแข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาหารเต่าคุณภาพดี เราขอแนะนำอาหารเต่า ยี่ห้อออพติมั่มอุดมด้วยคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน พร้อมแร่ธาตุ แคลเซียม และวิตามินดี สามารถซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป และผ่านทางเว็บไซต์www.pcgshoponline.com