การเลี้ยงม้าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะม้าต้องการการดูแลเอาใจใส่การเลี้ยง โดยเฉพาะม้าที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาขี่ม้า จะต้องมีการเตรียมสุขภาพร่างกายม้าให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ดังนั้น ผู้ที่เลี้ยงม้าจึงควรใส่ใจสุขภาพของม้า และรู้จักวิธีการตรวจสุขภาพม้าเบื้องต้น เพื่อที่จะได้สังเกตความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึงการให้อาหารที่ถูกต้อง ถูกสุขอนามัย ซึ่งมีประเด็นสำคัญในการตรวจสุขภาพม้าดังต่อไปนี้
ตามธรรมชาติแล้ว ม้าเป็นสัตว์ที่แข็งแรง ปราดเปรียว และสง่างาม มีรูปร่างที่สวยงาม สมส่วน มีโครงสร้างของกระดูก กล้ามเนื้อ และสัดส่วนที่พอเหมาะ แต่หลายครั้งที่เราพบว่าม้ามีรูปร่างที่ไม่สมส่วน ผอมหรืออ้วนจนเกินไป เนื่องจากได้รับอาหารที่น้อยหรือมากเกินไป หรือเจ็บป่วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรตรวจดูรูปร่างของม้าว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่อยู่เสมอ
รูปร่างหรือความอ้วนผอมของม้า สามารถวัดเป็นคะแนนตั้งแต่ 1-9 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หากว่าม้ามีน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ คือ มีคะแนนอยู่ที่ 6-9 ควรปรับลดอาหาร และให้ม้าได้ออกกำลังอย่างเหมาะสม แต่หากว่าม้ามีคะแนนอยู่ที่ 1-4 ควรเพิ่มปริมาณอาหารให้เหมาะสมเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีของม้า
นอกจากการให้อาหารและน้ำที่เพียงพอในแต่ละวันแล้ว ควรจะสังเกตปริมาณอาหารที่ม้ากินในแต่ละมื้อ แต่ละวัน เช่น กินอาหารหมดหรือไม่ หรือกินอาหารได้น้อยลงกว่าปกติหรือไม่ ที่สำคัญ ประเทศไทยมีภูมิอากาศร้อนชื้น ซึ่งทำให้ม้าสูญเสียเหงื่อได้ง่าย จึงควรจัดเตรียมน้ำสะอาดอย่างเพียงพอในแต่ละวันและการให้เกลือแร่หรืออิเลคโตรไลท์โดยสามารถผสมในน้ำหรือในอาหาร จะช่วยทดแทนการสูญเสียเหงื่อให้กับม้าได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกอาหารที่เหมาะสมกับกิจกรรมและการใช้งานของม้า เพื่อให้ม้าได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และมีสุขภาพที่แข็งแรง
การตรวจสอบโรคหรือความผิดปกติของสุขภาพที่ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ การตรวจสอบอุจจาระของม้า ทั้งจำนวนกอง และปริมาณว่ามีจำนวนมากหรือน้อยจนผิดปกติหรือไม่
ลักษณะของอุจจาระเป็นข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน โดยลักษณะของอุจจาระที่ดีจะต้องมีลักษณะนุ่ม และเป็นก้อน แต่หากว่าเหลวเป็นน้ำ และมีลักษณะที่ไม่เป็นก้อน หรือแข็งจนเกินไป อาจจะเกิดปัญหาหรือความผิดปกติในลำไส้ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากสิ่งที่ม้ากินเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น อาหาร น้ำ หญ้า หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ
กีบม้า เป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญมากของม้า ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นประจำ ซึ่งกีบม้าเป็นส่วนที่มีการงอกออกมาตลอดเวลา จึงต้องมีการตัดแต่งให้มีลักษณะที่ดี มีองศาและความหนาของกีบที่เท่ากันทั้งสี่เท้า เพื่อให้สามารถเดินและวิ่งได้อย่างมีสุขภาพดี ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพม้าในส่วนอื่น ๆ อย่างเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อบริเวณขา
ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรทำความสะอาดและตรวจสอบความผิดปกติของกีบม้าเป็นประจำทุกวัน หลังขี่ทุกครั้ง ควรทำความสะอาดกีบม้าให้สะอาด นำสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากกีบม้า พร้อมตรวจสอบว่ามีบาดแผล การอักเสบใด ๆ หรือไม่ หากพบความผิดปกติได้เร็วก็จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และใส่เกือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของม้าแต่ละตัว
หลังจากที่นำม้าออกไปขี่หรือไปใช้งานตามปกติแล้ว เมื่อนำม้ากลับเข้าคอก หรือขณะที่อาบน้ำม้า ผู้ดูแลม้าควรจะสำรวจร่างกายของม้าว่าเกิดอาการบวม ช้ำ หรือมีบาดแผลเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้บาดแผลนั้นเกิดอาการบวมหรืออักเสบมากไปกว่าเดิม
การตรวจสอบสุขภาพม้าโดยรวมที่ควรจะทำเป็นประจำคือ การตรวจสอบสีของเยื่อเมือก เพื่อดูลักษณะการไหลเวียนของเลือด โดยนิยมดูที่บริเวณเหงือกของม้ามากกว่าบริเวณอื่น ดังนั้น หากเหงือกมีสีชมพูและมีความชุ่มชื้น แสดงว่าสุขภาพโดยรวมของม้าปกติ แต่หากเป็นสีซีด อาจจะเกิดภาวะโลหิตจางหรือเสียเลือด สีแดงเข้ม อาจจะเกิดการอักเสบ เป็นไข้ หรือขาดน้ำอย่างรุนแรง และสีม่วง คืออาการขาดออกซิเจน หรืออยู่ในภาวะช็อก ควรรีบให้สัตวแพทย์ตรวจสอบอาการอย่างเร่งด่วน
นอกจากการดูสีของเหงือกแล้ว ให้เราตรวจสอบการเติมเต็มของเลือดในเส้นเลือดฝอย (Capillary refill time; CRT) ด้วยการใช้นิ้วมือส่วนที่นุ่ม กดลงบนเหงือกเหนือฟันของม้าเบา ๆ แล้วปล่อย ดูว่าใช้เวลาประมาณกี่วินาทีในการที่เหงือกจะกลับมาเป็นสีเดิม หากเกินกว่า 2 วินาที เป็นไปได้ว่าม้าอาจมีอาการผิดปกติ เช่น การขาดน้ำ
โดยปกติแล้ว ม้าจะมีอัตราการหายใจอยู่ที่ประมาณ 10-20 ครั้งต่อนาที สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากการยืนข้าง ๆ ตัวม้า แล้วสังเกตการขยับของช่องท้อง แล้วจับเวลา นับการหายใจของม้า หากม้าหายใจถี่ผิดปกติ อาจจะเกิดจากความเครียดหรือเจ็บป่วย ควรปรึกษาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน
ในสภาวะอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย ทำให้ม้าเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ จึงควรตรวจสอบภาวะการขาดน้ำของม้าเป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด โดยการดึงผิวหนังบริเวณหัวไหล่ขึ้นมาประมาณ 2 ซม. หากกดคืนตัวอย่างรวดเร็ว แสดงว่าอยู่ในภาวะปกติ แต่หากว่าหดคืนช้า แสดงว่ามีอาการขาดน้ำ ควรให้ม้าดื่มน้ำโดยทันที เพื่อป้องกันภาวะช็อก
ฟันเป็นอวัยวะที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร เช่นเดียวกันกับคน การที่มีปัญหาสุขภาพฟันจะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ม้า ด้วยเหตุนี้ ผู้เลี้ยงควรจะตรวจสุขภาพฟันของม้าเป็นประจำทุก 6 เดือน และทำการตะไบฟันไม่ให้ฟันยาวและแหลมคม ส่งผลให้ฟันผุ หรือมีปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ตามมา
ปัญหาสุขภาพฟันที่เรื้อรังจะทำให้ม้าไม่ยอมเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ส่งผลต่อระบบลำไส้ เกิดอาหารอุดตันหรือมีสิ่งแปลกปลอมในช่องทางเดินอาหาร ทำให้ม้าเกิดอาการเสียดท้องได้
นอกจากการตรวจสอบสุขภาพม้าเป็นประจำแล้ว การให้อาหารม้าพรีเมียม สอดคล้องกับกิจกรรมและการใช้งานของม้า ก็เป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการดูแลสุขภาพม้าให้แข็งแรง หากสนใจ สามารถสั่งซื้ออาหารม้าคุณภาพดีจาก MaxWin ทุกสูตรได้ที่ PCG Shop Online เราเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพสูงในราคาคุ้มค่า พร้อมมีบริการส่งสินค้าจากผู้ผลิตถึงหน้าบ้านคุณ